ทุกอย่างเกิดขึ้นได้เมื่อมีการเปลี่ยนแปลง เปลี่ยนตัวเองให้ดีขึ้น
มีวินัยขึ้น เป็นผู้เป็นคนมากขึ้น ยากใหม? ยากนะการที่อยู่ๆคนเรา
จะลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงตัวเอง นอกจากว่าจะมีแรงจูงใมหาศาลหรือตกอยู่ในสถานการณ์ลำบากถึงขีดสุด ชีวิตจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงจนกระทั่งความเจ็บปวดจากความนิ่งเฉย จะมากกว่าความเจ็บปวดจากความเปลี่ยนแปลง
ยอมรับความจริงได้ใหมว่าที่เราไม่เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นจากเมื่อหลายปีก่อนก็เพราะตัวเราเอง ใช้เวลาตรงนี้สัก 5 นาที นึกซิว่า"มีอะไรบ้างที่อยากทำ แต่ยังไม่ได้ทำ" แล้วทำไมไม่ทำ?
อยากจริงหรือ? นึกสภาพตัวเองแล้วรับได้จริงหรือ?
อยากได้ อยากมี อยากเป็น มากกว่าตอนนี้ เปลี่ยนตัวเองซิ ต้องเปลี่ยนตัวเองให้ได้ จะหนักแค่ไหนก็ต้องทำได้ ต้องเก่งขึ้น ต้องทำได้อย่างที่คิด ตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยวแล้วเริ่มลงมือทำ อย่า "จะ" แต่ "เดี่ยวนี้" ทำเลย "คนที่คิดถึงความสำเร็จในวันข้างหน้าต้องเป็นคนกล้าเปลี่ยนแปลงตัวเองในวันนี้"
กุญแจพลิกชีวิต
"ชีวิตเป็นของเราใช่ของใคร" จะทำอะไรทำไมต้องแคร์คนอื่น ถ้าเป็นเรื่องดีจะรออะไร ทำแล้วได้ดี ตัวเราเองที่ได้ ทำแล้วไม่ได้อย่างที่หวังตัวเราเองที่ได้บทเรียน
"กลัว" คำๆเดียวที่จะทำให้คุณหยุดอยู่กับที่ ความเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยก็ไม่เกิด ความกลัวไม่ทำให้เราถึงตาย แต่ถ้ายอมกลัวตลอดไปอาจลำบากถึงตายได้ เอาชนะความกลัวได้ก็สำเร็จไปครึ่งทางแล้ว
ปัญหากับความสำเร็จ
ถ้าทำงานแล้วไม่มีปัญหา แสดงว่านั่นแหละคือปัญหา
ปัญหามีไว้ให้เราแก้เป็นบททดสอบว่าเราจะไปถึงจุดหมายได้หรือไม่
ปัญหาคือบททดสอบ ในการเริ่มต้นทำสิ่งใดๆก็ตาม ปัญหามักจะมาเป็นระยะ และอาจมาหลายๆรอบ มาทีละปัญหาหรือมาพร้อมกันหลายๆปัญหาก็ได้ ควรเตรียมความพร้อมในเรื่องนี้
ปัญหาคือหนทางสู่ความสำเร็จ
เมื่อปัญหาเกิดขึ้นจากการทำงานหรือการทำธุรกิจ พึงคิดเสมอว่าโอกาสที่คุณจะประสบความสำเร็จกำลังใกล้เข้ามาแล้ว เพราะปัญหาที่เกิดขึ้นก็คือบททดสอบคุณเท่านั้นเองว่าคุณจะสามารถผ่านไปได้หรือไม่ หลายคนพอเจอปัญหาก็เริ่มท้อทิ้งเป้าหมายที่วางไว้ แล้วก็หาคำตอบที่เข้าข้างตัวเองว่า เราคงทำไม่ได้ เรายังไม่พร้อม เราคงทำไม่สำเร็จ หรือคำตอบอีกต่างๆนาๆ ต่างจากคนที่ประสบความสำเร็จ เขากลับมองว่าปัญหา คือ การท้าทายความสามารถ เพราะคนที่ประสบความสำเร็จต้องหาวิธีการจัดการกับปัญหาให้ได้ ผมเชื่อว่าเมื่อเราแก้ปัญหาหรือผ่านมันไปได้ ปัญหานั้นจะกลายเป็นประสบการณ์ เป็นพื้นฐานในอนาคตให้กับตัวเอง
อดทนเพื่อความสำเร็จ
ถ้าคุณคิดว่าทำตามวิธีการและขั้นตอนเพียงแค่นั้นก็จะประสบความสำเร็จโดยง่าย ที่ผ่านมาผมว่าความสำเร็จก็อยู่แค่เอื้อม แต่มีหลายสิ่งที่มักจะเกิดขึ้นในระหว่างรอความสำเร็จก็คือ ความเหนื่อยล้า ปัญหาที่เกิดขึ้นตลอดเวลา ความมุ่งมั่นเริ่มลดลง กำลังใจลดลง รวมทั้งสิ่งต่างๆที่จะเข้ามาบั่นทอนกำลังใจ
ผมจำได้ว่าตอนที่ทำธุรกิจใหม่ๆมีหลายครั้งที่อยากล้มเลิกความตั้งใจ ความรู้สึกนี้มันจะมาทีละช่วงเวลา เหมือนมาเป็นบททดสอบเราเป็นระยะ ถ้ามีจิตใจที่เข้มแข็งน้อยก็อาจกลายเป็นผู้แพ้ได้ เราต้องระลึกเสมอว่า ได้ทำมาเป็นขั้นเป็นตอนแล้ว ผ่านปัญหามาหลายอย่าง ถ้าเราผ่านครั้งนี้ไปได้อีกก็จะพบกับความสำเร็จ มีหลายคนที่เริ่มต้นก็ตั้งใจทำ มีความมุ่งมั่นสูง แต่พอทำไปสักระยะหนึ่ง เมื่อเห็นปัญหาหรือความสำเร็จมาช้ากว่าที่คิด หรือยิ่งทำยิ่งรู้สึกว่าเมื่อไหร่จะมาถึงสักที จึงเลิกทำ
จงจำไว้เสมอว่าระยะเวลาที่จะทำให้สำเร็จไม่ใช่เวลาเพียง 6 เดือน หรือ 1 ปี แต่อาจใช้ระยะเวลา 2-3 ปี หรือยาวนานกว่านั้น คนที่ล้มเหลวเท่าที่ได้สังเกตุดูจะเริ่มท้อถอยตอนเริ่มธุรกิจในระยะเวลา 6 เดือน ถึง 1 ปีแรก ช่วงนี้ปัญหาเยอะ เป็นช่วงที่คุณต้องปรับตัวเองให้เข้าใจและเรียนรู้กับสิ่งที่คุณทำ
หากมีใครถามว่า ทำไมต้องอดทน ? จงตอบเขาไปว่า
หากคุณไม่ต้องการลมหายใจ และ ไม่ต้องการชีวิตแล้ว คุณก็ไม่จำเป็นต้องอดทนอีกต่อไป
ถ้าทำงานแล้วไม่มีปัญหา แสดงว่านั่นแหละคือปัญหา
ปัญหามีไว้ให้เราแก้เป็นบททดสอบว่าเราจะไปถึงจุดหมายได้หรือไม่
ปัญหาคือบททดสอบ ในการเริ่มต้นทำสิ่งใดๆก็ตาม ปัญหามักจะมาเป็นระยะ และอาจมาหลายๆรอบ มาทีละปัญหาหรือมาพร้อมกันหลายๆปัญหาก็ได้ ควรเตรียมความพร้อมในเรื่องนี้
ปัญหาคือหนทางสู่ความสำเร็จ
เมื่อปัญหาเกิดขึ้นจากการทำงานหรือการทำธุรกิจ พึงคิดเสมอว่าโอกาสที่คุณจะประสบความสำเร็จกำลังใกล้เข้ามาแล้ว เพราะปัญหาที่เกิดขึ้นก็คือบททดสอบคุณเท่านั้นเองว่าคุณจะสามารถผ่านไปได้หรือไม่ หลายคนพอเจอปัญหาก็เริ่มท้อทิ้งเป้าหมายที่วางไว้ แล้วก็หาคำตอบที่เข้าข้างตัวเองว่า เราคงทำไม่ได้ เรายังไม่พร้อม เราคงทำไม่สำเร็จ หรือคำตอบอีกต่างๆนาๆ ต่างจากคนที่ประสบความสำเร็จ เขากลับมองว่าปัญหา คือ การท้าทายความสามารถ เพราะคนที่ประสบความสำเร็จต้องหาวิธีการจัดการกับปัญหาให้ได้ ผมเชื่อว่าเมื่อเราแก้ปัญหาหรือผ่านมันไปได้ ปัญหานั้นจะกลายเป็นประสบการณ์ เป็นพื้นฐานในอนาคตให้กับตัวเอง
อดทนเพื่อความสำเร็จ
ถ้าคุณคิดว่าทำตามวิธีการและขั้นตอนเพียงแค่นั้นก็จะประสบความสำเร็จโดยง่าย ที่ผ่านมาผมว่าความสำเร็จก็อยู่แค่เอื้อม แต่มีหลายสิ่งที่มักจะเกิดขึ้นในระหว่างรอความสำเร็จก็คือ ความเหนื่อยล้า ปัญหาที่เกิดขึ้นตลอดเวลา ความมุ่งมั่นเริ่มลดลง กำลังใจลดลง รวมทั้งสิ่งต่างๆที่จะเข้ามาบั่นทอนกำลังใจ
ผมจำได้ว่าตอนที่ทำธุรกิจใหม่ๆมีหลายครั้งที่อยากล้มเลิกความตั้งใจ ความรู้สึกนี้มันจะมาทีละช่วงเวลา เหมือนมาเป็นบททดสอบเราเป็นระยะ ถ้ามีจิตใจที่เข้มแข็งน้อยก็อาจกลายเป็นผู้แพ้ได้ เราต้องระลึกเสมอว่า ได้ทำมาเป็นขั้นเป็นตอนแล้ว ผ่านปัญหามาหลายอย่าง ถ้าเราผ่านครั้งนี้ไปได้อีกก็จะพบกับความสำเร็จ มีหลายคนที่เริ่มต้นก็ตั้งใจทำ มีความมุ่งมั่นสูง แต่พอทำไปสักระยะหนึ่ง เมื่อเห็นปัญหาหรือความสำเร็จมาช้ากว่าที่คิด หรือยิ่งทำยิ่งรู้สึกว่าเมื่อไหร่จะมาถึงสักที จึงเลิกทำ
จงจำไว้เสมอว่าระยะเวลาที่จะทำให้สำเร็จไม่ใช่เวลาเพียง 6 เดือน หรือ 1 ปี แต่อาจใช้ระยะเวลา 2-3 ปี หรือยาวนานกว่านั้น คนที่ล้มเหลวเท่าที่ได้สังเกตุดูจะเริ่มท้อถอยตอนเริ่มธุรกิจในระยะเวลา 6 เดือน ถึง 1 ปีแรก ช่วงนี้ปัญหาเยอะ เป็นช่วงที่คุณต้องปรับตัวเองให้เข้าใจและเรียนรู้กับสิ่งที่คุณทำ
หากมีใครถามว่า ทำไมต้องอดทน ? จงตอบเขาไปว่า
หากคุณไม่ต้องการลมหายใจ และ ไม่ต้องการชีวิตแล้ว คุณก็ไม่จำเป็นต้องอดทนอีกต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น